มะรุมป่า แค่พูดชื่อก็สงสัยกันแล้วใช่มั้ยคะว่าคือต้นอะไร ? ความจริงแล้วเราสามารถพบเห็นต้นไม้ชนิดนี้ได้ทั่วไปในประเทศไทยเลยค่ะ ซึ่งเราอาจจะได้เคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วเพียงแต่ว่าต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างทำให้ในแต่ละท้องถิ่นมีคำเรียกแตกต่างกันจึงไม่รู้ว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน โดยมีความสำคัญเป็นสมุนไพรที่สำคัญชนิดหนึ่งของไทยด้วย Lapoon Organic จะพาไปรู้จักกันเลยค่ะว่าต้นไม้ชนิดนี้คือต้นอะไรและน่าสนใจอย่างไร ?
รู้จัก “มะรุมป่า” กับสิ่งที่ต้องรู้เพื่อสุขภาพ พร้อมคำแนะนำและข้อควรระวัง !
มะรุมป่าเป็นต้นไม้พื้นบ้านที่พบได้โดยทั่วไปในประเทศไทยแต่มีชื่อเรียกที่ต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ พฤกษ์, ซึก, ซิก, จามจุรี, กะซึก, ชุงรุ้ง, ก้ามปู, คะโก, จามรี, มะขามโคก, พญากะบุก, ตุ๊ด, กาแซ, กาไม เป็นต้น ภาษาอังกฤษเรียกว่า Indian Walnut หรือ Siris โดยมีชื่อซ้ำกับพืชชนิดอื่นอย่างจามจุรีและก้ามปูด้วย แต่ความจริงแล้วชื่อของต้นจามรีหรือก้ามปูนั้นได้มาทีหลังโดยมีที่มาจากชื่อของต้นมะรุมป่านั่นเอง เพราะมีลักษณะดอกเป็นฝอยคล้ายกันเพียงแต่ต้นจามรีจะมีสีชมพู ส่วนต้นมะรุมป่าจะมีดอกเป็นฝอยสีเหลือง พอถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะพอนึกลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ออกกันแล้วใช่มั้ยคะ
ต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Albizia lebbeck Benth. อยู่ในวงศ์ Mimosoideae (Leguminosae) จัดอยู่ในประเภทถั่วเช่นเดียวกับต้นราชพฤกษ์ (คูน) กัลปพฤกษ์ และชัยพฤกษ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผิวเปลือกขรุขระแตกเป็นร่องยาว เปลือกด้านในมีสีแสดแดง ใบเป็นรูปขนนก สองชั้นเรียงสลับกัน ใบมีลักษณะเป็นช่อฝอยสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ส่วนฝักจะคล้ายกระถินแต่ใหญ่กว่า มีสีขาวอมเหลือง ซึ่งคนไทยผูกพันกับพืชชนิดนี้มานานแล้วและรู้จักสรรพคุณเป็นอย่างดีไม่แพ้กับพุทราจีนเลยค่ะ โดยมีการนำมาใช้เป็นยาพื้นบ้านด้วย
มะรุม สรรพคุณมีอะไรบ้าง ?
ต้นไม้ชนิดนี้เป็นพืชพื้นบ้านที่อยู่คู่กับคนไทยมานานและยังมีสรรพคุณที่ดีหลายอย่าง จึงถูกนำมาใช้เพื่อเป็นยาสมุนไพรด้วย โดยมีการนำส่วนต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ ดังนี้
- เมล็ดและเปลือกของฝักมะรุม สรรพคุณสามารถนำมากินเพื่อเป็นยาสมานได้ ช่วยรักษาแผลในปาก ในลำคอ ใช้รักษาอาการเหงือกอักเสบ ฟันผุ ริดสีดวงทวารหนัก แก้ท้องร่วงและห้ามเลือดตกใน มีรสชาติออกฝาด
- เมล็ดมะรุม สรรพคุณสามารถรักษาอาการทางผิวหนังได้ แม้จะไม่ได้มีสรรพคุณครอบคลุมเทียบเท่ากับบัวหิมะแต่ก็มีสรรพคุณดีไม่แพ้กัน โดยนิยมนำมาใช้รักษากลากเกลื้อนและโรคเรื้อน และนำมาทำเป็นยารักษาเยื่อตาอักเสบได้ด้วย
- ใบ สามารถใช้แก้พิษต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ดับพิษร้อนในร่างกายได้
แวะเลือกชื้อสินค้ามากมาย ทั้งพืชผัก ผลไม้ สมุนไพร และผลิตภัณฑ์ออแกนิกแท้ 100%
ใน ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic ได้อีกที่
มะรุมป่า กินยังไง ?
พืชชนิดนี้เป็นที่รู้จักดีในสมัยก่อนเนื่องจากเป็นผักพื้นบ้านที่ใช้ใบอ่อนและยอดอ่อนนำมากินโดยต้องทำให้สุกก่อน นิยมนำมาลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทำแกงส้ม ไข่เจียว ชุบแป้งทอด ผัดน้ำมันหอย และยำยอดอ่อนเป็นต้น มีรสชาติอร่อยใกล้เคียงกับผักหวาน ทั้งนี้ใบอ่อนและยอดอ่อนยังมีคุณค่าอาหารสูงซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็กและมีวิตามินซีสูงและมีสรรพคุณเป็นยาได้ด้วย แต่ในปัจจุบันสามารถหากินได้ค่อนข้างยากแล้ว
แนะนำสูตรแกงส้มมะรุมป่า
เมนูแกงส้มนี้สามารถทำคล้าย ๆ กับแกงส้มชะอมไข่ทอดได้เลยค่ะโดยใช้ยอดใบอ่อนของมะรุมป่ามาแทนชะอม เริ่มจากนำยอดใบอ่อนมาเจียวกับไข่ทอดเตรียมไว้ก่อน จากนั้นต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่พริกแกงส้มลงไปคนจนละลาย ปรุงรสด้วยมะขามปียก น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว แล้วใส่เนื้อปลาหรือกุ้งสดลงไปรอจนทุกอยางสุกดีก็ใส่ไข่เจียวใบอ่อนที่เตรียมไว้ลงไปก็เป็นอันเสร็จ เมนูนี้จะนิยมกินกันในท้องถิ่นต่างจังหวัดแต่ในกรุงเทพฯ จะพบเห็นต้นไม้ชนิดนี้ได้น้อยแล้วจึงไม่ค่อยได้เห็นเมนูนี้เท่าไหร่นัก
สิ่งที่ต้องเตรียม : ยอดใบอ่อนมะรุมป่า, ไข่ไก่, พริกแกงส้ม, มะขามปียก, น้ำปลา, น้ำตาลมะพร้าว, เนื้อปลาหรือกุ้งสด
นอกจากนำไปกินแล้วยังสามารถใช้ปรับปรุงหน้าดินให้อุดมสมบูรณ์ได้ด้วยเพราะเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีประโยชน์ในการเปลี่ยนไนโตรเจนให้กลายเป็นปุ๋ยได้ดี และเนื้อไม้ก็มีความเหนียว แข็ง ทนทาน สามารถนำมาใช้สร้างบ้านเรือนหรือเฟอร์นิเจอร์ได้ โดยมีชื่อทางการค้าสากลว่า Indian Walnut Siris และ Kokko
ข้อควรระวัง
ไม่ควรกินเมล็ดหรือน้ำยาง เพราะมีผลทำให้เยื่อบุผนังกระเพาะและลำไส้อักเสบได้ และส่งผลทำให้มีอาการอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง
ด้วยความที่มะรุมป่าอยู่คู่กับคนไทยมานานและเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์รวมทั้งมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่ดีในปัจจุบันจึงได้รับการพิจารณาให้เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดมหาสารคามด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นพืชอีกชิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งกินเป็นอาหาร เป็นยารักษาโรค หรือใช้สร้างบ้านเรือนก็ได้ ถึงแม้ในปัจจุบันจะหาได้ยากแล้วแต่ถ้าใครยังสามารถพบเห็นพืชชนิดนี้อยู่ก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารกินเพื่อสุขภาพได้นะคะ
“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : doctor.or.th, panmai.com, samunpri.com, d.dailynews.co.th
Featured Image Credit : pixabay.com/Buntysmum