เว็บไซต์ Lapoon Organic

Life is good with nature

La'Poon Organic

We have transformed into eagle farming. which is another thing that I love In addition to being consumed It has also been used to add value to new products. Even more exciting in this challenge. and will be the future of the new generation Including the farmer who will come together to work with us. Make it a sustainable and safe career that everyone will be able to live with their loved ones. have a sustainable life To give the best to everyone because we are La’poon Organic family.

We have many types of organic raw materials such as Turmeric, Galangal, Longan Cocoa, Moringa , Rice Berry , Aloe Vera , White Sesami , Black Sesami , Perilla ,Sun Flower. All can be used for cooking. or to be used as raw materials.

สาระเพื่อตัวเรา

รวบรวมสาระ บทความที่สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของเราได้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ปรับวันละเล็กละน้อย ก็ยีงดีมาปรับไปด้วยกัน

เที่ยวชมสวนของเรา

สวนของเรา เน้นปลูกวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค รวมกับคนในชุมชน เน้นใช้สินค้าหรือสมนไพรของไทยและมีการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูนั้น

ผลิตภัณฑ์ด้วยใจ

ผลิตภัณฑ์สินค้าของเรา เน้นการใช้ส่วนผสมที่มีความเป็นธรรมชาติ ปลอดสารเคมีให้ได้มากที่สุด อ่อนโยนต่อทุกคน

สมุนไพรแก้ปวด ที่ได้ผล ไม่อันตรายกับสุขภาพมีอะไรบ้าง ?

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Freepik

อาการปวดมักจะเกิดขึ้นเมื่ออวัยวะภายในร่างกายมีอาการอักเสบเมื่อมีอาการปวดจึงทำให้รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก การกินยารักษาอาการแก้ปวดในทุกครั้งที่มีอาการก็อาจทำให้มีภาวะดื้อยาได้เนื่องจากยาแก้ปวดแบบปฏิชีวนะจะออกฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรงเพื่อระงับอาการ รวมทั้งผู้ที่มีอาการแพ้ยาก็ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดได้ การใช้ สมุนไพรแก้ปวด จากธรรมชาติจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีและได้ผลโดยไม่เป็นอันตราย ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง Lapoon Organic ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วค่ะ

สมุนไพรแก้ปวด ใช้แล้วได้ผลจริง ไม่อันตรายต่อร่างกายมีอะไรบ้าง ?

อาการปวดต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อมีอาการอักเสบในจุดใดจุดหนึ่งในร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง ปวดคอ ปวดแขน เป็นต้น ทั้งนี้การกินยาแก้ปวดเป็นประจำก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อร่างกาย การกินสมุนไพรแก้ปวดจึงเป็นตัวช่วยจากธรรมชาติที่ดีและได้ผลเช่นเดียวกัน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีสมุนไพรชนิดไหนกันบ้าง

1. กานพลู

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Pixabay

กานพลูเป็นสมุนไพรรสเผ็ดที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรแก้เจ็บคอ ทอนซิลได้ดี เพราะมีสารยูจีนอลเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสารชนิดนี้สามารถช่วยลดอาการอักเสบและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ รวมทั้งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและเป็นสมุนไพรแก้ปวดได้ด้วย การกินกานพลูแก้ปวดสามารถใช้นำมาประกอบอาหารทั้งต้นหรือจะกินแบบผงก็ได้เช่นกัน

ข้อควรระวัง : กานพลูเป็นอาหารที่ค่อนข้างปลอดภัยแต่ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไปหรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน และเป็นอาหารที่ปลอดภัยต่อสตรีมีครรภ์เว้นแต่หากต้องการกินเพื่อเป็นยาควรปรึกษาแพทย์ก่อน

2. ขิง

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Pixabay

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรแก้ปวดหัวได้ดีโดยเฉพาะแก้อาการปวดหัวจากไมเกรน ทั้งนี้เพราะว่าขิงสามารถลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostiglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบได้ดี จึงช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้และมีสรรพคุณที่ช่วยแก้อาการต่าง ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีอาการไมเกรนได้ด้วย เช่น การแก้คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว โดยสามารถนำขิงมาต้มในน้ำอุ่นจิบระหว่างวันแทนการกินยาแก้ปวดหัวได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาทาภายนอกแก้ปวดข้อได้อีกด้วย โดยใช้เหง้าสดของขิงไปย่างแล้วตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวนำไปทาในบริเวณที่รู้สึกปวดข้อก็จะช่วยทำให้อาการปวดข้อทุเลาลง

ข้อควรระวัง : ไม่ควรกินน้ำขิงที่เข้มข้นมากเกินไปเพราะอาจทำให้ลำไส้หยุดการบีบตัวส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร และไม่ควรกินขิงเมื่อเป็นหวัดตัวร้อน เสมหะเหนียวข้น เพราะอาจทำให้อาการทรุดหนักกว่าเดิม รวมทั้งสตรีมีครรภ์, ผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี, ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการจับตัวของเกล็ดเลือด และผู้ที่เป็นโรคกระเพาะควรหลีกเลี่ยง

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

3. ขมิ้นชัน

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Freepik

เป็นที่รู้กันดีว่าขมิ้นชันเป็นสุดยอดสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มากไปด้วยสรรพคุณทางยา เพราะมีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสามารถช่วยต้านอาการอักเสบต่าง ๆ ได้เทียบเท่ากับการใช้ยาต้านการอักเสบไดโคลฟีแนคซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบัน โดยสารเคอร์คูมินนี้จะทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่งเอนไซม์ที่ทำให้มีอาการปวด อักเสบ และบวมจึงช่วยบรรเทาอาการปวดได้ อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารน้อยกว่าเพราะเป็นสมุนไพรที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารได้ด้วย การกินขมิ้นเพื่อแก้ปวดสามารถกินได้ทั้งเหง้าสดและกินแบบแคปซูลหรือขมิ้นชนิดผง เพียงแต่ต้องเลือกแบบที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือได้

ข้อควรระวัง : การกินขมิ้นรูปแบบแคปซูลไม่ควรกินในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานเนื่องจากอาจมีสารตกค้างในร่างกายได้ และอาจมีผลข้างเคียงต่อเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่เป็นท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เพื่อเป็นยา

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

4. พริก

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Pixabay

พริกที่เรากินกันโดยทั่วไปจะมีความเผ็ดจากสารแคปไซซิน โดยสารชนิดนี้มีสรรพคุณที่ดีหลายอย่างรวมทั้งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารที่บรรเทาอาการปวดได้ด้วย พริกจึงเป็นสมุนไพรแก้ปวดได้ดีโดยเฉพาะเมื่อนำมาแปรรูปเป็นรูปแบบน้ำมันแคปไซซิน ซึ่งองค์การอาหารและยา (FDA) ได้ให้การรับรองแล้วว่าสารแคปไซซิมีประโยชน์ใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อได้จริง

ข้อควรระวัง : การกินพริกในปริมาณที่ร่างกายรับไหวนั้นไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพ แต่การใช้น้ำมันหรือเจลที่สกัดจากสารแคปไซซินในพริกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง รู้สึกแสบร้อน หรือคันได้ในการใช้ครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่บอบบาง จึงควรทดลองใช้ในปริมาณน้อยก่อน

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

5. ดอกแค

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Vecteezy

ดอกแคเป็นสมุนไพรแก้ปวดหัวที่ดีอีกชนิดหนึ่ง นอกจากดอกแค สรรพคุณจะสามารถแก้ไข้หวัดหัวลมหรืออาการไข้หวัดเมื่อเปลี่ยนฤดูกาลได้แล้วยังมีสรรพคุณที่สามารถแก้อาการปวดหัวไมเกรนได้ด้วย วิธีกินเพียงแค่นำดอกแคสดจำนวน 10 ดอกมาล้างน้ำให้สะอาดโดยไม่ต้องแกะไส้สีเหลืองด้านในออกแล้วลวกจิ้มกินกับน้ำพริก หรือต้มกับน้ำแกงจืดกินร้อน ๆ วันละครั้งอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะช่วยแก้อาการปวดหัวจากไมเกรนได้

ข้อควรระวัง : ไม่ควรกินดอกแคสดเพราะมีรสชาติเฝื่อนและอาจมีสารตกค้างได้ ควรนำไปผ่านความร้อนเพื่อทำให้สุกก่อน และการกินดอกแคในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้มีอากาคลื่นไส้อาเจียนได้

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

6. ฟ้าทะลายโจร

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Vecteezy

สารแอนโดรกราฟโฟไลด์ (Andrographolide) ที่อยู่ในฟ้าทะลายโจร คือสารที่ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสและช่วยยับยั้งการอักเสบได้ จึงทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรแก้ปวดหัวและแก้เจ็บคอได้ด้วย รวมทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันทำให้หายจากไข้หวัดได้เร็ว แต่ด้วยความที่ฟ้าทะลายโจรมีรสขมอาจจะเป็นเรื่องยากในการกินใบสด สามารถกินรูปแบบแคปซูลแทนได้โดยมีสรรพคุณทางยาเช่นเดียวกัน

ข้อควรระวัง : ไม่ควรกินแคปซูลฟ้าทะลายโจรติดต่อกันนานเกิน 5 วันและควรกินแค่วันละ 3-4 ครั้งเท่านั้น หากมีอาการแพ้เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง วิงเวียนศีรษะ ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก ผื่นขึ้น ควรหยุดกินทันที ทั้งนี้สตรีตั้งครรภ์, สตรีที่กำลังให้นมบุตร และผู้ที่ต้องกินยาลดความดันโลหิตไม่ควรกิน รวมทั้งไม่ควรใช้ควบคู่กับยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือดด้วย เช่น วาร์ฟารินหรือยาแอสไพริน

7. กระเทียม

สมุนไพรแก้ปวด, สมุนไพรแก้ปวดหัว
Image Credit : Pixabay

กระเทียมเป็นสมุนไพรในครัวสารพัดประโยชน์ที่สามารถฆ่าเชื้อและแก้อักเสบได้เป็นอย่างดี  เพราะมีสารอัลลิซิน (Allicin) ที่มีฤทธิ์ในการต้านอักเสบและรักษาอาการปวดได้ จึงมีการนำมาสกัดเป็นน้ำมันกระเทียมแก้อาการปวดข้อหรือแก้เคล็ดขัดยอกด้วยเช่นกัน แต่หากต้องการกินเพื่อรักษาอาการปวดภายในเช่น กินเป็นสมุนไพรแก้ปวดหัว ให้กินกระเทียมสดวันละ 7 หัว หรือกินกระเทียมดอง 5 -7 กลีบก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี นอกจากนี้ยังนิยมใช้รักษาอาการปวดฟันด้วยโดยการนำกระเทียมตำผสมกับเกลือมาเคี้ยวบริเวณที่ปวดฟัน

ข้อควรระวัง : การกินกระเทียมสดเป็นอาหารไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายเพียงแต่ไม่ควรกินในปริมาณมากจนเกินไป แต่ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำหรือเป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างใช้ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์, ยาคุมกำเนิด, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาต้านเกล็ดเลือดควรหลีกเลี่ยง

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

การกินสมุนไพรแก้ปวดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการกินยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้มีสารตกค้างในร่างกายมากเกินไปและอาจนำไปสู่อาการดื้อยาได้ ทั้งนี้การกินสมุนไพรนั้นปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่าแต่ก็ควรกินตามคำแนะนำและไม่ควรกินต่อเนื่องกันนานจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”


อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : doctor.or.th, medthai.com, rama.mahidol.ac.th, dop.go.th, bumrungrad.com

Featured Image Credit : freepik.com/valeria_aksakova