อาหารไทยมักจะมีรสชาติที่เผ็ดร้อนจนกลายเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว และสิ่งที่ช่วยเสริมให้อาหารนั้นมีรสเผ็ดขึ้นมาก็คือ พริก นั่นเอง ซึ่งความเผ็ดของพริกนั้นจะมาจากสารแคปไซซินที่เป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของผลพริกและเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่พริกที่เราใช้ประกอบอาหารนั้นไม่ได้มีแค่เพียงชนิดเดียว แล้ว พริก มีกี่ชนิด และมีความแตกต่างกันยังไง ? Lapoon Organic จะพาไปดูคำตอบกันเลยค่ะ
ชวนทำความรู้จัก พริก มีกี่ชนิด ? พืชรสเผ็ดที่แฝงไปด้วยคุณประโยชน์
พริกเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายโดยเฉพาะเมื่อต้องการให้อาหารมีรสเผ็ดก็ต้องนึกถึงพริกก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องการให้ความเผ็ดนั่นเอง เนื่องจากในพริกมีสารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบกระจายอยู่ในทุกส่วน โดยเฉพาะในรกหรือไส้ของพริกด้านในจึงทำให้มีความเผ็ดมากกว่าเปลือกด้านนอก
พริกสามารถวัดระดับความเผ็ดได้ด้วยค่าสโควิลล์ (Scoville) ซึ่งสารแคปไซซินที่ให้ความเผ็ดในพริกนี้ นอกจากจะให้รสเผ็ดได้ดีแล้วยังมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย เราไปทำความรู้จักกับพืชรสเผ็ดชนิดนี้กันเลยดีกว่าค่ะว่า พริก มีกี่ชนิด ? และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
พริก มีกี่ชนิด ?
ในประเทศไทยมีพริกอยู่ถึงประมาณ 831 สายพันธุ์เลยทีเดียว สามารถจำแนกตามขนาดผลได้เป็น 2 ชนิด คือ พริกที่มีผลขนาดใหญ่ และพริกที่มีผลขนาดเล็ก ดังนี้
1. พริกที่มีผลขนาดใหญ่
พริกที่มีผลขนาดใหญ่ ได้แก่ พริกชี้ฟ้า พริกหวาน และพริกหยวก เป็นต้น เป็นพริกที่มีขนาดความยาวผลขนาด 5-10 เซนติเมตร มีรสชาติไม่ค่อยเผ็ดมาก อยู่ในระดับต่ำจนถึงปานกลาง นิยมใช้กินสดหรือนำไปตากแห้งก็ได้ และนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ซอสพริกก็ได้เช่นเดียวกัน
พริกชนิดนี้มีรสชาติที่ไม่เผ็ดมากจึงมักถูกนำไปทำอาหารที่ต้องการความเผ็ดไม่มากหรือไม่ต้องการความเผ็ด เช่น เมนูผัดพริกหยวก ผัดพริกเหลือง พริกหวานยัดไส้ เป็นต้น หรือนำไปผสมกับพริกที่มีผลขนาดเล็กเพื่อให้มีรสชาติที่หลากหลายมิติก็ได้เช่นกัน แต่ไม่นิยมนำไปทำอาหารที่ต้องดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ที่มีกลิ่นแรงเพราะมีรสชาติจัดจ้านไม่มากพอ
2. พริกที่มีผลขนาดเล็กหรือพริกขี้หนู แบ่งย่อยได้ 2 ชนิดคือ
ชนิดแรกคือ พริกขี้หนูผลใหญ่ ได้แก่ พริกจินดา พริกห้วยสีทน พริกหัวเรือ และพริกชลบุรี พริกชนิดนี้มีลักษณะภายนอกคล้ายกับพริกที่มีผลขนาดใหญ่แต่จะมีรสชาติเผ็ดกว่า แต่ก็ไม่ได้เผ็ดเท่าพริกขี้หนูผลเล็ก โดยมีขนาดความยาวผลอยู่ที่ 2-5 เซนติเมตร สามารถกินสดหรือทำพริกแห้งก็ได้ และยังนิยมนำไปทำเป็นพริกป่นด้วยเพราะมีความเผ็ดกำลังดี
ชนิดที่สอง คือพริกขี้หนูผลเล็ก ได้แก่ พริกขี้หนูสวน พริกกะเหรี่ยง พริกขี้หนูหอม พริกขี้นก มีขนาดผลยาวน้อยกว่า 2 เซนติเมตร เป็นพริกผลเล็กแต่ให้รสชาติที่เผ็ดจัดจ้านและเผ็ดที่สุดเมื่อเทียบกับพริกชนิดอื่น มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คนไทยนิยมใช้พริกชนิดนี้ประกอบอาหารมากที่สุดเพราะมีรสชาติเผ็ดมากเหมาะกับอาหารไทย สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งผลสดและทำพริกแห้ง หากนำมาทำพริกป่นก็จะมีรสจัดมาก
พริกที่มีผลขนาดเล็กหรือพริกขี้หนูนิยมนำไปทำอาหารที่ต้องการความเผ็ดจัด เช่น เมนูผัดพริกสด เมนูผัดพริกเกลือ เครื่องแกง น้ำพริกต่าง ๆ น้ำจิ้มซีฟู๊ด อาหารประเภทยำ เป็นต้น และด้วยความที่มีรสชาติเผ็ดค่อนข้างมากจึงสามารถกลบความคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี และมักจะพบในอาหารอีสานเพราะสามารถกลบความคาวปลาร้าได้และมีรสชาติเข้ากันอย่างลงตัว
ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
พริก
การเเปรรูป : ตากแห้ง ทำอาหารเครื่องแกง
พริก ประโยชน์ต่อร่างกายมีอะไรบ้าง?
ถึงแม้พริกจะมีความต่างชนิดกันและมีหลากหลายสายพันธุ์กันแต่ก็มีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะมีสารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อได้รู้แล้วว่าพริก มีกี่ชนิดเราก็มารู้จักกับประโยชน์ของพริกกันเลยค่ะ
1. ช่วยลดน้ำหนัก
สารแคปไซซินในพริกมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้ เมื่อกินพริกเป็นประจำก็จะช่วยทำให้สามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีกรดที่ช่วยเร่งให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานได้จึงทำให้กำจัดไขมันได้เร็วขึ้นด้วย และมีสรรพคุณช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้ดี
2. ทำให้อารมณ์ดี
เมื่อเรากินพริกเข้าไปสารเคปไซซินที่อยู่ในพริกจะไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาทำให้ผู้กินรู้สึกดี จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนชอบความรู้สึกที่ได้กินของเผ็ดนั่นเอง อีกทั้งยังลดการสร้างฮอร์โมนที่ทำให้เครียดด้วย การกินพริก ประโยชน์จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขได้เช่นเดียวกับการดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยอย่างมะกรูด ลองอ่านเรื่องมะกรูด ทำอะไรได้บ้าง เพิ่มเติมได้อีกนะคะ
ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
มะกรูด
การเเปรรูป : ขายใบ ขายลูก ขายสด ทำอาหารเครื่องแกง
3. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
การกินพริกสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ เพราะมีสรรพคุณช่วยลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดและช่วยละลายลิ่มเลือด จึงทำให้เลือดไม่อุดตัน อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลได้ดี การกินพริกเป็นประจำจึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้
4. เสริมสร้างภูมิต้านทาน
พริกเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งวิตามินซีที่อยู่ในพริกนี้ก็เป็นสารสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถป้องกันไข้หวัดได้
5. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
วิตามินซีที่อยู่ในพริกสามารถยับยั้งสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้ อีกทั้งยังมีสารเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย การกินพริกจึงช่วยความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถลดอัตราการกลายพันธุ์และช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้ด้วย โดยเฉพาะมะเร็งปอดและมะเร็งในช่องปาก
ข้อควรระวังในการกินพริก
พริกมีความเผ็ดร้อนในตัวสูงมากโดยเฉพาะพริกขี้หนูขนาดเล็ก การกินพริกจึงควรกินแต่พอดีหากกินเผ็ดมากเกินไปอาจทำให้กระเพาะอาหารอักเสบและลำไส้อักเสบเรื้อรังได้ และอาจมีอาการรุนแรงขึ้นจนพัฒนาไปเป็นมะเร็งลำไส้ได้เลย นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเป็นกรดไหลย้อนอีกด้วย เพราะพริกมีฤทธิ์เป็นกรดสูง
ใครทายถูกบ้างคะว่าพริก มีกี่ชนิด? ไม่น่าเชื่อว่าพริกที่เรากินกันจะมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันขนาดนี้ แต่ความเผ็ดของพริก ประโยชน์ก็ช่วยส่งผลดีต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นพริกชนิดไหน การกินพริกแต่พอดีจะช่วยทำให้มีความสุขและส่งผลดีต่อสุขภาพได้ แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้มากกว่า ถ้าใครกินพริกแล้วรู้สึกเผ็ดมากเกินไปแนะนำให้อมนมสดไว้ในปากหรือเอาเกลือแตะลิ้นไว้ก็จะช่วยคลายความเผ็ดร้อนได้ดีเลยล่ะค่ะ
“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : pharmacy.su.ac.th, medthai.com, foodnetworksolution.com
Featured Image Credit : freepik.com/jcomp