ซอสมะเขือเทศเป็นเครื่องปรุงที่ต้องมีติดครัวไว้เสมอเพราะไม่ว่าจะจิ้มกินกับอะไรก็อร่อย แต่การซื้อซอสมะเขือเทศกินจากข้างนอกบางครั้งก็มีรสชาติที่ไม่อร่อยถูกปากและอาจจะมีส่วนผสมของสารกันบูดที่ไม่ปลอดภัยอีกด้วย การทำซอสมะเขือเทศกินเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซอสมะเขือเทศที่มีรสชาติดีและยังสามารถคัดเลือกวัตถุดิบเองได้ด้วยทำให้มีความปลอดภัยต่อร่างกาย ซึ่งวิธีทำซอสมะเขือเทศนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดเลยค่ะ Lapoon Organic จะมาแนะนำ วิธีทำซอสมะเขือเทศ กันแบบทำตามได้ง่ายทีละขั้นตอนเลย ตามมาดูกันค่ะว่าจะง่ายสักแค่ไหน
วิธีทำซอสมะเขือเทศ ด้วยตัวเองแบบละเอียดยิบ รับประกันความสดใหม่ คัดเลือกวัตถุดิบเองเน้น ๆ !
การซื้อซอสมะเขือเทศจากข้างนอกอาจจะมีการใส่สารปรุงแต่งบางชนิดที่ไม่จำเป็นและไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย ดังนั้นการทำซอสมะเขือเทศด้วยตัวเองจึงมีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ซอสมะเขือเทศเข้มข้นรสชาติถูกใจแล้วเรายังสามารถที่จะเลือกวัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้อีกด้วย โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กที่ต้องระมัดระวังเรื่องส่วนผสมในอาหารมากเป็นพิเศษ ซึ่งวิธีทำซอสมะเขือเทศนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากไปมากกว่าวิธีทำเครื่องแกงเลยค่ะ และยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย ก่อนอื่นเรามาดูส่วนผสมที่สำคัญในการทำซอสมะเขือเทศกันก่อนเลยค่ะ
ส่วนผสมสำหรับ วิธีทำซอสมะเขือเทศ
1. มะเขือเทศ
แน่นอนว่าการทำซอสมะเขือเทศก็ต้องมีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งสำหรับมะเขือเทศนั้นควรจะเลือกเป็นมะเขือเทศที่มีผลใหญ่ ฉ่ำน้ำ และเป็นมะเขือเทศออแกนิคเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากสารเคมี นอกจากนี้ยังได้รสชาติความสดใหม่จากมะเขือเทศมากกว่าการใช้มะเขือเทศแบบกระป๋องอีกด้วย
ชื้อสินค้าออแกนิกราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
มะเขือเทศ
การเเปรรูป : ขายสด
2. พริกชี้ฟ้าแดง
โดยปกติแล้วพริกมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งพริกชี้ฟ้าจัดอยู่ในชนิดพริกผลใหญ่และมีรสเผ็ดไม่มาก (สามารถอ่าน พริก มีกี่ชนิด? เป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ) ทั้งนี้การใส่พริกชี้ฟ้าในซอสมะเขือเทศก็จะช่วยทำให้ซอสมะเขือเทศเข้มข้นยิ่งขึ้นแต่ไม่ถึงกับมีรสเผ็ด และทำให้ซอสมีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น โดยควรเลือกเป็นเม็ดพริกที่สดใหม่และไม่ลีบแบนจึงจะมีรสชาติดี
ชื้อสินค้าออแกนิกราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
พริก
การเเปรรูป : ตากแห้ง ทำอาหารเครื่องแกง
3. เครื่องเทศ
สำหรับเครื่องเทศในวิธีทำซอสมะเขือเทศจะประกอบไปด้วยหัวหอม, กานพลูป่น และอบเชยป่น ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นเฉพาะตัวช่วยเสริมให้ซอสมะเขือเทศมีกลิ่นหอมน่ากินยิ่งขึ้น และช่วยเป็นตัวช่วยทำให้รสชาติของซอสมีความลงตัวมากขึ้น
4. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงจำเป็นสำหรับวิธีทำซอสมะเขือเทศ เพราะจะช่วยเสริมรสเปรี้ยวให้กับซอสได้ซึ่งเป็นความเปรี้ยวที่มากกว่าผลของมะเขือเทศ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการช่วยยืดระยะเวลาการเก็บรักษาซอสโดยไม่ต้องใส่สารกันบูดเพิ่มเลยค่ะ
5. น้ำตาลทรายขาว
สำหรับส่วนผสมสุดท้ายก็คือน้ำตาลทรายนั่นเองค่ะ ซึ่งน้ำตาลทรายจะช่วยทำให้ซอสมีรสชาติเปรี้ยวหวานอย่างพอดีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเป็นกรดของผลมะเขือเทศและน้ำส้มสายชูไม่ให้จัดจ้านมากเกินไปด้วย
วิธีทำซอสมะเขือเทศ
ขั้นตอนที่ 1
ล้างมะเขือเทศให้สะอาดแล้วใช้มีดกรีดผิวมะเขือเทศบาง ๆ ให้เป็นเครื่องหมายบวกเพื่อระบายความร้อนขณะต้ม จากนั้นก็นำไปต้มในน้ำเดือดจัดได้เลย เมื่อต้มจนมะเขือเทศนิ่มแล้วก็นำมาแช่น้ำเย็นทันทีจะช่วยทำให้สามารถปอกเปลือกมะเขือเทศได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็จัดการลอกเปลือกออกให้หมด
ขั้นตอนที่ 2
วิธีทำซอสมะเขือเทศขั้นตอนต่อมาคือการนำเครื่องเทศลงไปเคี่ยวในกระทะโดยสับหัวหอมกับพริกชี้ฟ้าแดงให้ละเอียด ตั้งน้ำมันในกระทะรอจนเดือดแล้วใส่หัวหอมกับพริกชี้ฟ้าแดงลงไป จากนั้นก็ให้เบาไฟลงแล้วเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชู อบเชย กานพลู ชิมรสตามชอบใจแล้วเคี่ยวจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ตั้งหม้อต้มไว้อีกประมาณ 1 ชั่วโมงจนมะเขือเทศนิ่มและส่วนผสมทุกอย่างเริ่มเหนียวข้น
ขั้นตอนที่ 3
เพื่อให้ได้ซอสมะเขือเทศเข้มข้นเนื้อเนียนสวยเราจะนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นในเครื่องปั่นอีกครั้งจนเนื้อเนียนละเอียด เสร็จแล้วก็นำมากรองเอาเฉพาะน้ำแล้วพักทิ้งไว้ให้เย็นตัวลง เมื่อซอสมะเขือเทศเริ่มเย็นก็จะได้ซอสมะเขือเทศที่มีความเหนียวหนืดยิ่งขึ้นเหมือนกับซอสมะเขือเทศที่มีขายทั่วไป จากนั้นก็นำไปต้มต่ออีกสักพักโดยหมั่นคนเรื่อย ๆ ไม่ให้ส่วนผสมไหม้ที่ก้นหม้อจนได้เป็นตัวซอสที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นกำลังดี
ขั้นตอนที่ 4
เมื่อได้ตัวซอสมะเขือเทศที่เราเคี่ยวไว้เรียบร้อยแล้วขั้นตอนสุดท้ายก็นำมาบรรจุได้เลย ซึ่งภาชนะสำหรับใส่ซอสมะเขือเทศควรเป็นขวดหรือโหลที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วและเป็นภาชนะสุญญากาศเพื่อปลอดภัยจากเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถเก็บซอสมะเขือเทศที่ทำเองนี้ไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องเตรียม : เนื้อมะเขือเทศสุก 10 ถ้วยตวง, น้ำตาล ½ ถ้วยตวง, หอมหัวใหญ่ 2 หัว, อบเชยป่น 1 ช้อนชา, พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด, กานพลูป่น 1 ช้อนชา, เกลือ 1 ช้อนชา, น้ำส้มสายชู 2 ½ ถ้วย
ประโยชน์จากซอสมะเขือเทศ
การทำซอสมะเขือเทศทำเองนั้นทำให้มั่นใจได้ว่ามะเขือเทศที่ใช้คือผลมะเขือเทศสดที่คัดเลือกมาอย่างดี จึงทำให้ได้รับประโยชน์จากสารไลโคปีนในมะเขือเทศอย่างเต็มที่ ซึ่งสารไลโคปีนนี้ก็จัดอยู่ในกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายได้ ทั้งยังมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวพรรณทำให้มีผิวที่เปล่งปลั่งสดใสผิวขาวอมชมพู และมีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตาทำให้การมองเห็นดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ดีอีกด้วย ซึ่งไลโคปีนนั้นจะสามารถทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพได้ดีกว่าเพื่อผ่านความร้อน ดังนั้นประโยชน์ที่ได้รับในวิธีทำซอสมะเขือเทศด้วยตัวเองจึงทำให้ได้รับประโยชน์จากไลโคปีนมากกว่าผลสดด้วย
วิธีทำซอสมะเขือเทศที่เรานำมาแบ่งปันนั้น นอกจากจะช่วยประหยัดเงินได้แล้วยังเป็นสูตรที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ล้วนมาจากธรรมชาติจึงไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีปนเปื้อนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นซอสมะเขือเทศทำจากผลมะเขือเทศสดจึงได้รับคุณประโยชน์จากสารอาหารในมะเขือเทศอย่างเต็มที่ สำหรับใครที่สนใจอยากทำซอสมะเขือเทศไว้กินเองก็สามารถนำสูตรของเราไปทำตามกันได้นะคะ
“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : myfoodstory.com, medicalnewstoday.com, healthline.com
Featured Image Credit : freepik.com/mdjaff