เว็บไซต์ Lapoon Organic

Life is good with nature

La'Poon Organic

We have transformed into eagle farming. which is another thing that I love In addition to being consumed It has also been used to add value to new products. Even more exciting in this challenge. and will be the future of the new generation Including the farmer who will come together to work with us. Make it a sustainable and safe career that everyone will be able to live with their loved ones. have a sustainable life To give the best to everyone because we are La’poon Organic family.

We have many types of organic raw materials such as Turmeric, Galangal, Longan Cocoa, Moringa , Rice Berry , Aloe Vera , White Sesami , Black Sesami , Perilla ,Sun Flower. All can be used for cooking. or to be used as raw materials.

สาระเพื่อตัวเรา

รวบรวมสาระ บทความที่สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของเราได้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ปรับวันละเล็กละน้อย ก็ยีงดีมาปรับไปด้วยกัน

เที่ยวชมสวนของเรา

สวนของเรา เน้นปลูกวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค รวมกับคนในชุมชน เน้นใช้สินค้าหรือสมนไพรของไทยและมีการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูนั้น

ผลิตภัณฑ์ด้วยใจ

ผลิตภัณฑ์สินค้าของเรา เน้นการใช้ส่วนผสมที่มีความเป็นธรรมชาติ ปลอดสารเคมีให้ได้มากที่สุด อ่อนโยนต่อทุกคน

มีด้วยหรอ สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว ?! ชวนมารู้จักสมุนไพรที่ใช้แก้เหน็บชากัน !

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยมีอาการเหน็บชากันมาบ้างอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในตอนที่ต้องนั่งท่าเดิมนาน ๆ หรือตอนนั่งขัดสมาธิ อาการเหน็บชาและตะคริวไม่ใช่ภาวะที่เกิดขึ้นเป็นปกติแต่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินบี 1 ก็จะทำให้อาการเหน็บชาและตะคริวกำเริบขึ้นมาได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเรากินอาหารที่ดีต่อร่างกายก็จะช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้ ซึ่ง สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว ก็มีหลายชนิดด้วยกัน Lapoon Organic จะพาไปดูกันค่ะว่ามีสมุนไพรอะไรบ้าง ?

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว มีด้วยเหรอ?! ทำความรู้จักสมุนไพรที่ช่วยแก้เหน็บชา ใช้แล้วได้ผลจริง !

เหน็บชาเป็นสภาวะที่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งไร้ความรู้สึกทำให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้ และบางทีหากมีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อด้วยก็จะเรียกว่า ตะคริว ซึ่งสามารถหายได้เองในเวลาไม่นานแต่ถ้าเป็นตะคริวขณะว่ายน้ำหรือขับรถก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายได้  ทั้งนี้อาการเหน็บชามักจะเกิดขึ้นเมื่อต้องอยู่ในท่าทางอิริยาบถเดิมนาน ๆ โดยมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบี 1 ซึ่งเป็นวิตามินที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทโดยเฉพาะด้านการรับรู้ความรู้สึก หากเป็นบ่อยมากผิดปกติก็อาจจะทำให้กลายเป็นโรคเหน็บชาได้ ทั้งนี้โรคเหน็บชาก็จะนำไปสู่ภาวะโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว, ภาวะทางจิต (Psychosis) และโรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphalaxis)

เห็นมั้ยคะว่าอาการเหน็บชาธรรมดาที่เราคิดว่าปล่อยไว้เฉย ๆ ให้หายเองได้นั้นอันตรายมากกว่าที่คิด อาหารที่กินจึงมีความสำคัญที่จะช่วยบรรเทาอาการเหน็บชาและตะคริวได้เป็นอย่างดี มาดูกันเลยค่ะว่าควรเลือกกินอะไรและสมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริวมีอะไรบ้าง ?

1. ขิง

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณรอบด้านสามารถเป็นได้ทั้งอาหารและยาที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยขับเหงื่อ ลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นสมุนไพรแก้ปวด รวมทั้งเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริวได้ด้วย โดยในอินเดียยังมีการนำขิงมาใช้ถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีและส่งผลดีต่อระบบประสาทตามไปด้วย แต่สำหรับประเทศไทยมีการกินขิงเป็นอาหารอยู่แล้วจึงได้ประโยชน์จากการกินอาหารที่มีขิงเป็นส่วนประกอบในตัว ซึ่งเหง้าขิงก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น เมนูผัดขิง หรือจะนำมาต้มเป็นน้ำขิงดื่มกินกับน้ำผึ้งก็ได้ แต่ไม่ควรใช้ขิงกับผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร และไม่ควรใช้ขิงในปริมาณมากจนเกินไป

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

2. ข้าวกล้อง

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

เป็นที่รู้กันดีว่าข้าวกล้องเป้นข้าวไม่ขัดสีที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะวิตามินบี 1 ที่จำเป้นอย่างยิ่งต่อการป้องกันอาการเหน็บชา จึงจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริวที่ดีอีกชนิดหนึ่งทั้งยังสามารถหากินได้ง่ายอีกด้วย และเป็นข้าวมีกากใยอาหารสูงป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและไม่ทำให้อ้วนด้วย การเปลี่ยนจากข้าวขาวมากินข้าวกล้องเป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินบี 1 อย่างเพียงพอและช่วยป้องกันการเกิดเหน็บชาได้อย่างเห็นผลชัดเจน

3. พริก

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

การกินพริกนอกจากจะได้ความเผ็ดแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย เพราะความเผ็ดจากพริกได้มาจากสารแคปไซซินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ได้ดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลทำให้ระบบประสาทสามารถรับรู้ความรู้สึกได้ดีขึ้นและช่วยป้องกันอาการเหน็บชาได้ พริกจึงเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชาที่ดี  ดังนั้นการกินเผ็ดวันละนิดก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างมากเลยค่ะ แต่ก็ไม่ควรกินพริกมากเกินไปเพราะความเผ็ดร้อนจะทำให้เป็นดรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารได้ ส่งผลทำให้ลำไส้อักเสบ และยังทำให้เป็นกรดไหลย้อนได้ด้วย

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

4. ถั่วลันเตา

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

ธัญพืชเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 ที่ดี โดยเฉพาะถั่วลันเตาซึ่งเป็นถั่วที่มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย สามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนู แต่นอกจากนี้ถั่วลันเตายังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆที่มีประโยชน์อีกด้วยโดยเฉพาะวิตามินบี 1 การกินถั่วลันเตาเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันเบาหวาน นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริวได้อีกด้วย แต่ก็ไม่ควรกินถั่วลันเตาในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะทำให้ท้องอืดหรือเรอบ่อยได้

5. ลูกเดือย

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Freepik

ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับข้าว มีลักษณะสีขาวคล้ายเมล็ดถั่วเมื่อนำมาต้มจะมีรสชาติหวานอร่อย สามารถนำไปทำเป็นน้ำลูกเดือยได้หรือใส่ในน้ำเต้าหู้ก็ช่วยเพิ่มความอร่อยได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างทั้งช่วยทำให้กระเพาะทำงานได้ดีขึ้น บำรุงให้ร่างกายแข็งแรง บำรุงให้ผิวและผมมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชาได้ด้วย เนื่องจากเป็นธัญพืชที่มีวิตามินบี 1 สูงมากโดยมีปริมาณวิตามินบี 1 สูงกว่าข้าวกล้องเสียอีก ทำให้แก้โรคเหน็บชาได้ดีมาก และมีแร่ธาตุและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายอย่าง แต่ผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อยและมีอาการปัสสาวะผิดปกติไม่ควรกิน

6. ไพล

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Vecteezy

ไพลหรือว่านไพลเป็นสมุนไพรที่มีลักษณะคล้ายกับขมิ้นแต่มีหัวใหญ่กว่าและมีลักษณะคล้ายกับขิง ซึ่งไพลนั้นจะนิยมนำมาใช้เพื่อขัดผิวบำรุงผิวพรรณ แต่นอกจากนี้แล้วยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชาได้ด้วย ซึ่งในตำรายาพื้นบ้านได้ระบุถึงสรรพคุณทางยาไว้หลายประการทั้งขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง ช่วยสมานแผลเป็นสมุนไพรรักษาแผลพุพอง แก้อักเสบ แก้โรคผิวหนัง  แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  รวมทั้งรักษาโรคเหน็บชา แต่ไพลสดอาจจะหาได้ยากหน่อยก็สามารถกินไพลในรูปแบบของแคปซูลหรือน้ำสมุนไพรได้ แต่มีข้อควรระวังไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไปหรือกินไพลต่อเนื่องเป้นระยะเวลานานเนื่องจากทำให้เป็นพิษต่อตับได้

7. ย่านาง

สมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริว, สมุนไพรแก้เหน็บชา
Image Credit : Vecteezy

ย่านางเป็นสมุนไพรครอบจักรวาลที่เป็นยาได้หลายอย่าง นิยมนำมาคั้นเป็นน้ำย่านางใส่ในอาหารต่าง ๆ เช่น ซุปหน่อไม้ เพราะน้ำจากใบย่านาง ช่วยลดฤทธิ์กรดยูริกและความขมในหน่อไม้ได้ หรือจะนำไปใส่แกงต่าง ๆ ก็ช่วยเพิ่มมิติรสชาติอาหารได้ดี เช่น แกงเห็ด ต้มเปรอะ แกงขี้เหล็ก  เป็นต้น แต่สรรพคุณทางยาสมุนไพรก็จัดได้ว่าน่าสนใจเช่นกันเพราะสามารถใช้ได้ทั้งถอนพิษที่ผิดสำแดงในร่างกาย แก้เมาเรือ แก้เมาสุรา แก้โรคหัวใจ และ ช่วยขับลม ถอนพิษไข้ นอกจากนี้ทั้งใบทั้งรากยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงได้ด้วย รวมทั้งเป็นสมุนไพรแก้เหน็บชาได้เป็นอย่างดีเพราะในใบย่านางมีวิตามินบี 1 สูงมาก ซึ่งเนวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายในการป้องการอาการเหน็บชา ซึ่งหากใครไม่ชอบกลิ่นและรสชาติของย่านางในปัจจุบันก็มีการนำมาสกัดเป็นแคปซูลช่วยให้กินได้ง่ายขึ้น แต่ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรกินเนื่องจากมีโพแทสเซียมสูงอาจส่งผลต่อการทำงานของไตได้

หวังว่าสมุนไพรแก้เหน็บชา ตะคริวจะเป็นประโยชน์ต่อหลาย ๆ คนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่นะคะ แต่นอกเหนือจากการเลือกกินอาหารแล้วพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน หากต้องการให้อาการเหน็บชาและตะคริวหายเป็นปลิดทิ้งควรลดการดื่มแอลกอฮอล์ ลดปริมาณเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ก็จะห่างไกลจากเหน็บชาและตะคริวได้แล้วค่ะ

“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : disthai.com, medthai.com, paolohospital.com, doctor.or.th, healthline.com

Featured Image Credit : freepik.com/gpointstudio