อาการไอเกิดจากการระคายเคืองในลำคอหรือมีอาการอักเสบในคอจึงทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการไอออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด ซึ่งมักจะพ่วงมาด้วยอาการมีเสมหะด้วยในบางครั้ง และถ้ายิ่งปล่อยไว้จนไอมาก ๆ ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อลำคอและปอดได้ ทั้งนี้การบรรเทาอาการไอก็ไม่จำเป็นต้องกินยารักษาเสมอไปเพราะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติจากผลไม้ใกล้ตัวนี่เองค่ะ Lapoon Organic จะพาไปรู้จักกับ ผลไม้แก้ไอ ที่ควรมีไว้ติดบ้านกันเลย
ผลไม้แก้ไอ อะไรบ้างที่ควรมีติดบ้าน ? รวม 7 อย่าง มีไว้หายห่วงเรื่องไอชัวร์ !
ใครที่มีอาการไอไม่ว่าจะเป็นการไอจากอาการป่วยหรือจากฝุ่นควันมลพิษในอากาศและไม่อยากกินยาปฏิชีวนะเพราะกลัวมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะเพราะว่าอาการไอสามารถบรรเทาได้ง่าย ๆ ด้วยผลไม้แก้ไอ ซึ่งเป็นวิธีรักษาโดยธรรมชาติจึงมีความปลอดภัยและสามารถหาได้ง่ายใกล้ตัว นอกจากนี้ในผลไม้ก็ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ไปดูกันเลยค่ะว่ามีผลไม้ชนิดใดบ้าง ?
1. มะนาว
มะนาวเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่ถูกนำมาใช้แก้ไอมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งมะนาวก็เป็นผลไม้ที่มีกรดซีตริกที่ให้รสเปรี้ยวอยู่สูงโดยกรดซีตริกนี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดไข้ ป้องกันหวัดได้ดี นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเด่นเป็นผลไม้แก้เจ็บคอและบรรเทาอาการไอได้ด้วย ถ้าใครมีอาการไออยู่ก็สามารถจิบน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นดื่มทีละน้อยตลอดวันก็จะช่วยให้ชุ่มคอได้ดีและหายไอเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะค่ะ แต่การดื่มน้ำมะนาวที่เป็นผลไม้ที่มีกรดสูงนั้น หากดื่มในปริมาณมากเกินไปก็อาจทำให้ฟันสึกกร่อนได้ จึงไม่ควรดื่มในปริมาณที่เยอะเกินไป
ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
มะนาว
การเเปรรูป : ขายสด
2. สับปะรด
ไม่น่าเชื่อว่าผลไม้แสนอร่อยอย่างสับปะรดก็มีสรรพคุณเป็นผลไม้แก้ไอด้วยเหมือนกัน โดยสับปะรดจัดว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และสามารถช่วยแก้ไอ กัดเสมหะในลำคอ แก้เสมหะเหนียวได้ดี นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยแก้อักเสบได้ด้วยจึงช่วยรักษาอาการอักเสบในลำคอที่เป็นต้นเหตุของอาการไอได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคไตควรกินจำกัดปริมาณในการกินสับปะรดเนื่องจากมีโพแทสเซียมสูงซึ่งอาจทำให้ไตทำงานหนักได้ และสับปะรดมีกรดสูงจึงไม่ควรกินมากเกินไปและผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยง
3. มะขาม
มะขามจัดเป็นสมุนไพรแก้เจ็บคอ ทอลซิลได้ดีอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มะขามแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีข้อแตกต่างกันไม่มากนักจึงสามารถกินมะขามชนิดใดก็ได้ แต่โดยมากจะนิยมกินเป็นพันธุ์ที่นำมาทำมะขามเปียกเพราะมีรสเปรี้ยวดี ซึ่งความเปรี้ยวจะช่วยแก้ไอ ขับเสมหะในลำคอ และทำให้รู้สึกชุ่มคอได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันไข้หวัดได้ด้วย สามารถกินมะขามสดเลยก็ได้หรือถ้ากลัวเปรี้ยวเกินไปก็แนะนำให้นำมะขามมาต้มน้ำอุ่นจิบดื่มก็ได้เช่นกัน แต่มะขามก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงจึงควรกินแต่พอเหมาะและผู้ป่วยดรคเบาหวานควรจำกัดปริมาณในการกินเนื่องจากอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้
4. เสาวรส
เสาวรสเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากจึงมีสรรพคุณแก้ไอได้ดีทั้งยังสามารถเป็นผลไม้แก้เจ็บคอได้ด้วย โดยการกินเสาวรสจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้รู้สึกชุ่มคอและส่งผลช่วยบรรเทาอาการไอและขจัดเสมหะได้ด้วย นอกจากนี้วิตามินซีในเสาวรสยังสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ด้วย ซึ่งมักจะกินเป็นผลเสาวรสสุกแบบสด ๆ มากกว่านำมาประกอบอาหารเพราะจะได้รับประโยชน์จากวิตามินซีเต็ม ๆ แต่การกินเสาวรสมากเกินไปก็อาจส่งผลทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ รู้สึกสับสน กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ หลอดเลือดอักเสบ หรือในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นผิดปกติได้ด้วย
5. มะดัน
มะดันเป็นผลไม้พื้นบ้านที่ถูกนำมาใช้ในทางยาสมุนไพรมานานแล้วโดยมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ขจัดเสมหะได้ดี และเป็นสมุนไพรแก้เจ็บคอที่ดีชนิดหนึ่งเพราะเมื่อกินผลมะดันสดแล้วดื่มน้ำตามจะทำให้น้ำมีรสชาติหวานและช่วยแก้อาการระคายคอได้ดีมาก นอกจากนี้ในตำรายาโบราณยังใช้วิธีกินแก้ไอด้วยการต้มกับน้ำเปล่าโดยใช้มะดัน 3 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วนแล้วเอามาผสมน้ำอุ่นกินเป็นยาแก้เสมหะรวมทั้งช่วยเรื่องประจำเดือนได้ด้วย แต่ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจจะยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
6. ส้ม
ส้มเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่จัดอยู่ในประเภทผลไม้วิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีในส้มนอกจากจะมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแล้วยังเป็นผลไม้แก้ไอได้ดีเลยล่ะค่ะ โดยสามารถกินแบบผลสดเลยก็ได้ หรือจะนำส้มมาคั้นน้ำแล้วผสมเกลือลงไปเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน โดยเกลือจะยิ่งช่วยเสริมฤทธิ์ในการกำจัดเสมหะได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินยารสขมหรือสามารถทำให้เด็กกินก็ได้นะคะ แต่สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานควรจำกัดปริมาณในการกินไม่เกินวันละ 2 ผล เนื่องจากการกินส้มมากเกินไปอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ และผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากโพแทสเซียมในส้มอาจส่งผลทำให้อาการไตกำเริบได้
7. มะขามป้อม
มะขามป้อมถูกจัดให้เป็นผลไม้แก้ไอและผลไม้แก้เจ็บคออันดับต้น ๆ ของไทย โดยถูกนำมาสกัดทำเป็นยาแผนโบราณด้วยเนื่องจากเห็นผลลัพธ์ได้ไวและชัดเจน ซึ่งมีการศึกษาพบว่าในมะขามป้อมมีสารที่ช่วยละลายเสมหะได้ดี เมื่อนำมากินจึงเป็นยาแก้ไอและแก้เจ็บคอได้ ช่วยทำให้รุ้สึกชุ่มคอ บรรเทาอาการละลายเคืองในลำคอ กำจัดเสมหะ ทำให้หายไอได้เร็ว นอกจากนี้ผลสดของมะขาวป้อมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงมากซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ และในตำรายาโบราณมีการนำมะข้ามป้อมมาใช้เป็นยาโดยนำผลสดหรือผลแห้งมาต้มกับน้ำดื่มหรือคั้นน้ำดื่มก็จะช่วยขับเสมหะได้ แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและโรคไตควรระมัดระวังในการกินมะขามป้อมเนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
การกินผลไม้แก้ไอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกินยา เพราะเป็นผลไม้ที่มาจากธรรมชาติจึงไม่เป้นอันตรายและไม่มีสารตกค้างสะสม นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย แต่ถ้ามีอาการไอต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์หรือมีอาการไอที่รุนแรงผิดปกติก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาจะดีกว่าเพราะอาจมีอาการไอเนื่องจากสาเหตุอื่น
“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : doctor.or.th, medicalnewstoday.com, disthai.com, medthai.com, pharmeasy.in
Featured Image Credit : freepik.com/lifeforstock