ว่าด้วยธัญพืชที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม มีความอร่อยจนได้รับความนิยมนำมากินเป็นอาหารอย่างแพร่หลาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่นำมาทำเครื่องดื่ม หรือเป็นส่วนผสมหลักของแอลกอฮอล์หลากชนิด อีกทั้งเป็นหนึ่งในข้าวทางเลือกเพื่อบำรุงสุขภาพ นอกเหนือจากข้าวกล้อง ควินัว หรือข้าวสาลีอ่อน ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ แน่นอนว่ามีเยอะเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชที่ภายในเต็มไปด้วยวิตามิน และเส้นใยที่ดีต่อสุขภาพ ว่าแต่ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ช่วยอะไรต่อร่างกายของเรา กินยังไงให้อร่อย รวมถึงการที่เรากินข้าวบาร์เลย์ อ้วนไหม ถ้ากินบ่อย ๆ มาเคลียร์ให้ชัดไปพร้อมกันกับ Lapoon Organic ได้เลยค่ะ
เคยลองไหม ? ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ ที่ว่าดีนั้นมีกี่อย่างกัน
ข้าวบาร์เลย์คืออะไร
อย่างที่ได้บอกไปว่าเป็นหนึ่งในธัญพืชที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ มีรสชาติออกไปทางมัน สัมผัสนุ่มละมุนแต่มีความเหนียวจากสารกลูเตน (Gluten) ลักษณะคล้ายลูกเดือยแต่มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กกว่า นอกจากการกินแบบสดแล้ว ยังถูกหยิบไปใช้ผลิตเป็นสารให้ความหวาน นำไปทำเป็นยา และอาหารเสริมอีกด้วย ได้รู้จักข้าวบาร์เลย์กันไปเบื้องต้นแล้ว ไปดูกันดีกว่าว่าข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์เด็ดมีอะไรบ้าง
ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ มีอะไรบ้าง ?
ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ที่ว่าดีนั้นมีหลากหลายอย่างมาก เพราะข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เช่น ไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีโปรตีนสูงกว่าข้าวขาวถึง 2 เท่า นอกจากข้าวบาร์เลย์จะถูกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมาะสำหรับใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรือดูแลหุ่น เพราะมีแคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์สูงทำให้กินน้อยแต่อิ่มท้องนาน แถมยังมีเบต้ากลูแคน (Beta-glucan) ที่ควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้น้อยลง และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไขมันไตรกลีเซอไรด์ (High Triglycerides) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจ โรคอ้วน หรือโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย เห็นได้เลยว่าข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ต่อสุขภาพมีเยอะมากเลยทีเดียว
กินข้าวบาร์เลย์ยังไงให้ได้ประโยชน์และอร่อย ?
การกินข้าวบาร์เลย์ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด แถมกินแล้วรสชาติอร่อย ก็คือการนำต้นอ่อนของข้าวบาร์เลย์มาคั้นเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งเครื่องดื่มจากข้าวบาร์เลย์นี้จะเรียกว่า ‘อาโอจิรุ’ มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เวลาที่เราดื่มเข้าไป ร่างกายจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระและคลอโรฟิลล์ด้วย สารอาหารเหล่านี้ส่งผลดีต่อผิวหน้า การเกิดสิวลดลง ลดโอกาสการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างเช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และคอเลสเตอรอลสูงด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม ข้าวบาร์เลย์ยังสามารถนำมาหุงกินแทนข้าวได้ อาจมีเนื้อสัมผัสที่ไม่คุ้นปากแต่ด้วยไฟเบอร์ที่มีมากในข้าวบาร์เลย์ทำให้อิ่มนานแน่นอน หรืออาจนำมาผสมกับข้าวเพียงเล็กน้อยก่อนก็ช่วยให้รู้สึกชินมากขึ้นได้ ถือเป็นการค่อย ๆ ปรับการกิน แต่ทั้งนี้สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบหลักของสลัดและซุปก็ได้เช่นกัน ส่วนเมนูจากข้าวบาร์เลย์เมนูไหนทำง่ายและน่ากิน สำหรับเด็ก ๆ อาจเป็นเมนูเบสิกอย่าง ข้าวบาร์เลย์เพียว ๆ กับไข่เจียวหมูสับ หรือถ้าอยากให้รสเข้มข้นขึ้นมาอีกนิด อาจนำข้าวไปผัดเป็นเมนูข้าวผัดข้าวบาร์เลย์ก็ดูน่าลอง ส่วนใครที่เป็นสายหวานอาจลองเป็น เต้าส่วนข้าวบาร์เลย์ หรือนมลูกเดือยข้าวบาร์เลย์ก็ได้ รับคุณประโยชน์คูณสองไปเลย !
ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !
ข้าวบาเลย์
การเเปรรูป : ตากแห้ง ทำชา
กินข้าวบาร์เลย์ อ้วนไหม กินแทนข้าวและทุกวันได้หรือเปล่า ?!
สำหรับใครที่ใส่ใจเรื่องความสวยความงามคงให้ความสนใจในการกินอาหารคลีน (อ่านเรื่องอาหารคลีน คืออะไรเพิ่มเติมกันได้นะคะ) คงเกิดคำถามที่ว่ากินข้าวบาร์เลย์ อ้วนไหมกันอย่างหนาหู ยืนยันตรงนี้เลยว่าไม่อ้วนค่ะ ! เพราะข้าวบาร์เลย์ให้พลังงานประมาณ 123 กิโลแคลอรี่ต่อข้าว 100 กรัมเท่านั้น เมื่อเทียบกับข้าวโอ๊ตถือว่าให้แคลอรี่น้อยกว่า
แน่นอนว่าคำถามที่ทุกคนสงสัยกันว่าดีขนาดนี้กินทุกวันได้หรือเปล่า ก็ขอตอบเลยว่า กินทุกวันแทนข้าวหรือผสมกับข้าวขาวได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้ากินเป็นชาหรือเครื่องดื่มแนะนำว่าไม่ควรใส่น้ำตาล เพราะแทนที่จะได้รับประโยชน์กลับกลายเป็นได้โทษแถมไปด้วย เพราะการกินน้ำตาลปริมาณมากในแต่ละวันจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้นั่นเองค่ะ
ผลเสียและข้อควรระวังของการกินข้าวบาร์เลย์
จบกันไปอีกหนึ่งคำถามที่ว่ากินข้าวบาร์เลย์ อ้วนไหม แต่มาที่อีกประเด็นที่ต้องรู้ก่อนกินข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์มีเยอะก็จริง แต่มีข้อเสีย ข้อควรระวังหรือไม่ มาสำรวจตัวเองกันว่าเหมาะกับการกินข้าวบาร์เลย์เพื่อบำรุงสุขภาพร่างกายกันหรือเปล่า ในเรื่องของผลเสียหรืออาการข้างเคียงจากการกินข้าวบาร์เลย์นั้น อาจทำให้เราเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง มีแก๊สเพิ่มขึ้นมามากในกระเพาะอาหาร สำหรับใครที่ไม่ได้มีอาการแพ้ธัญพืช แพ้กลูเต้น หรือเป็นโรคเซลิแอค (Celiac Disease) ที่ตอบสนองไวต่อกลูเตน ก็สามารถกินข้าวบาร์เลย์ได้ตามปกติเลยค่ะ โอกาสเกิดผลข้างเคียงค่อนข้างมีน้อยมาก ๆ แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์นั้นเรียกว่าเป็นกลุ่มที่ต้องระวังหรือหลีกเลี่ยงการกินข้าวบาร์เลย์ไปก่อน เพราะเมื่อกินข้าวบาร์เลย์เข้าไปอาจกระตุ้นการบีบตัวของมดลูกได้นั่นเอง
ข้าวบาร์เลย์เรียกได้ว่าถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง จนหลายคนอยากหาซื้อมาลองทำอาหารหรือกินตาม ในครั้งนี้เราได้ไขข้อข้องใจกันไปพร้อมกันแล้วว่าข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์ดีต่อสุขภาพมีอะไรบ้าง ข้าวบาร์เลย์ อ้วนไหมหากกินบ่อย ๆ หรือกินทุกวัน และต้องระวังอะไรบ้างถึงจะกินได้อย่างปลอดภัยและได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้ทุกคนได้เข้าใจข้าวบาร์เลย์มากขึ้น เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกรับอาหารที่ดีเข้าสู่ร่างกาย และอาจเป็นไอเดียให้กับคนที่กำลังมองหาอาหารวัยทองกันได้อีกด้วย
“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”
Featured Image Credit : pexels.com/Pixabay