เว็บไซต์ Lapoon Organic

Life is good with nature

La'Poon Organic

We have transformed into eagle farming. which is another thing that I love In addition to being consumed It has also been used to add value to new products. Even more exciting in this challenge. and will be the future of the new generation Including the farmer who will come together to work with us. Make it a sustainable and safe career that everyone will be able to live with their loved ones. have a sustainable life To give the best to everyone because we are La’poon Organic family.

We have many types of organic raw materials such as Turmeric, Galangal, Longan Cocoa, Moringa , Rice Berry , Aloe Vera , White Sesami , Black Sesami , Perilla ,Sun Flower. All can be used for cooking. or to be used as raw materials.

สาระเพื่อตัวเรา

รวบรวมสาระ บทความที่สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของเราได้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ปรับวันละเล็กละน้อย ก็ยีงดีมาปรับไปด้วยกัน

เที่ยวชมสวนของเรา

สวนของเรา เน้นปลูกวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค รวมกับคนในชุมชน เน้นใช้สินค้าหรือสมนไพรของไทยและมีการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูนั้น

ผลิตภัณฑ์ด้วยใจ

ผลิตภัณฑ์สินค้าของเรา เน้นการใช้ส่วนผสมที่มีความเป็นธรรมชาติ ปลอดสารเคมีให้ได้มากที่สุด อ่อนโยนต่อทุกคน

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม ? กินยังไงถึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ !

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม, กระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวัง
Image Credit : Freepik

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในฐานะผักต้มจิ้มน้ำพริก แต่ในระยะหลังเริ่มมีการนำกระเจี๊ยบไปทำเมนูอย่างอื่นมากขึ้นเช่น ปิ้งกับพริกหม่าล่า ไข่เจียว หรือนำไปทำเป็นเทมปุระก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่กินง่าย มีรสชาติอร่อย ซึ่งเราอาจจะเข้าใจว่ากระเจี๊ยบเขียวต้องนำไปผ่านความร้อนก่อนจึงจะสามารถกินได้ แต่ Lapoon Organic มีคำตอบมาฝากกันค่ะว่า กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม และมีวิธีกินยังไง ?

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม ? แชร์วิธีกินยังไงให้ดีต่อสุขภาพและไม่อันตราย !

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักจิ้มน้ำพริกยอดนิยมของคนไทย ซึ่งผักชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายแบบตามแต่ละท้องถิ่น บางคนก็เรียกว่า กระเจี๊ยบมอญ มะเขือมอญ มะเขือพม่า มะเขือทวาย มะเขือละโว้ หรือ ถั่วส่าย  ก็ได้เช่นกัน เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Malvaceae ลำต้นสูงประมาณ สูงประมาณ 0.5-2.4 เมตร กระเจี๊ยบเขียวส่วนฝักที่นำมากินจะมีรูปทรงเรียวยาว ปลายแหลมโค้งเล็กน้อย ฝักเป็นทรงห้าเหลี่ยม มีขนอ่อนปกคลุมอยู่รอบฝักโดยมีลักษณะเด่นที่ภายในฝักจะอัดแน่นไปด้วยเมล็ดเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดพริกแต่ไม่มีรสชาติเผ็ด (อ่านเรื่องพริกมีกี่ชนิดเพิ่มเติมได้อีกนะคะ) และมีเมือกเหนียวอยู่ นิยมกินฝักอ่อนมากกว่าฝักแก่ มีรสชาติหวานกรอบอร่อย แต่ก็มีบางคนยังไม่รู้วิธีกินว่า กระเจี๊ยบเขียวกิน ดิบได้ไหม ?

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม กินยังไงให้ปลอดภัย ?

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม, กระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวัง
Image Credit : Pixabay

ความจริงแล้วกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีประโยชน์มากหากกินอย่างถูกวิธีแต่ถ้าไม่รู้ว่ากระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม ก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน เพราะการกินกระเจี๊ยบ ข้อควรระวังคือควรนำไปทำให้สุกก่อน ไม่ควรกินกระเจี๊ยบเขียวแบบดิบ เพราะนอกจากจะมีความเหม็นเขียวแล้วยังส่งผลเสียต่อร่างกายได้ด้วย เช่น มีอาการเมา จึงควรนำกระเจี๊ยบเขียวไปผ่านความร้อนก่อนถึงจะดีต่อร่างกาย เช่น เอาไปต้ม นึ่ง หรือ ย่างก็ได้ ส่วนกระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวังเกี่ยวกับเมือกเหนียวในฝักนั้นพบว่าไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย สามารถกินได้อย่างปลอดภัย เพราะเป็นเมือกที่สามารถละลายน้ำได้ และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

สิ่งที่ควรรู้ว่ากระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหมอีกย่างหนึ่งคือ กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีสารพิษตกค้างค่อนข้างสูงมาก การกินกระเจี๊ยบเขียว ข้อควงรระวังจึงไม่ควรกินดิบ เพราะหากกินดิบจะทำให้เป็นอันตรายทำให้ระบบประสาทส่วนกลางถูกทำลายและเซลล์ประสาททำงานผิดปกติ ส่งผลให้รู้สึกชาที่ใบหน้า ลิ้น ริมฝีปากหรือทำให้ชักได้ ดังนั้นจึงควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้งและเพื่อความมั่นใจก็ควรปรุงสุกให้ผ่านความร้อนก่อนเพื่อฆ่าเชื้อได้ดียิ่งขึ้น

วิธีกินกระเจี๊ยบเขียวให้ดีต่อสุขภาพ

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม, กระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวัง
Image Credit : Freepik

เมื่อได้รู้แล้วว่ากระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหมก็ต้องมีวิธีการทำกระเจี๊ยบให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพให้มากที่สุดด้วย หลังจากล้างกระเจี๊ยบเขียวสะอาดแล้วแนะนำให้นำมาหั่นเป็นแว่นขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร แล้วต้มในน้ำเดือด 1-2 นาทีก่อน จากนั้นจึงใช้กระชอนแยกน้ำออก การหั่นกระเจี๊ยบเขียวก่อนนำไปต้มจะยิ่งทำให้เมือกเหนียวถูกขับออกมามากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงเมือกเหนียวนี้เองที่เป็นส่วนที่ทำให้กระเจี๊ยบเขียวอร่อยยิ่งขึ้นและมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก โดยเมื่อนำไปต้มสุกแล้วก็สามารถนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น กระเจี๊ยบเขียวผัดไข่, กระเจี๊ยบเขียวคั่วพริกหม่าล่า, แกงส้มกระเจี๊ยบเขียว, ไข่เจียวกระเจี๊ยบเขียว, ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่นใส่กระเจี๊ยบเขียว, ซุปใสกระเจี๊ยบเขียว, กระเจี๊ยบเขียวราดน้ำมันหอย แกงเลียงกระเจี๊ยบเขียว และยำกระเจี๊ยบเขียว เป็นต้น

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic

ประโยชน์กระเจี๊ยบเขียวด้านสุขภาพ

กระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหม, กระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวัง
Image Credit : Freepik

1. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น กำจัดไขมัน

อย่างที่รู้กันดีว่ากระเจี๊ยบเขียวมีลักษณะเด่นคือเมือกที่อยู่ด้านในฝัก โดยเมือกเหนียวนี้จะทำหน้าที่เคลือบกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี และยังทำให้อาหารในลำไส้ถูกย่อยได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังมีเส้นใยชนิดละลายน้ำและชนิดไม่ละลายน้ำอยู่ในตัวซึ่งช่วยระบบขับถ่ายได้ดีมาก เส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้จะช่วยดูดสารพิษในลำไส้และขับถ่ายออกมา ช่วยแก้อาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทั้งยังช่วยกำจัดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ด้วย

2. เคลือบกระเพาะอาหาร เพิ่มพรีไบโอติก

เมือกเหนียวของกระเจี๊ยบเขียวสามารถช่วยเคลือบกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี หากกินกระเจี๊ยบเป็นประจำก็จะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร เยื่อบุกระเพาะ และลำไส้อักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบไกลโคไซเลต และไกลโคโปรตีน ซึ่งมีหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี และมีส่วนสำคัญในการเพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ (โพรไบโอติก) จึงปรับสมดุลระบบขับถ่ายได้และช่วยลดความเสี่ยงของโรคแผลในกระเพาะอาหาร รวมทั้งป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย

3.  รักษาโรคเบาหวาน

กระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้ และยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกาย จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานเป็นอย่างยิ่ง และมีการทดลองในสัตว์พบว่ากระเจี๊ยบเขียวอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย ซึ่งในอนาคตอาจสามารถใช้ต้านเบาหวานในคนได้เช่นกัน

แวะเลือกชื้อสินค้ามากมาย ทั้งพืชผัก ผลไม้ สมุนไพร และผลิตภัณฑ์ออแกนิกแท้ 100%
ใน ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic ได้อีกที่

กระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวังในการกิน

นอกจากจะไม่ควรกระเจี๊ยบเขียวดิบแล้ว บุคคลที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารก็ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องอืด ปวดท้องได้ และผู้ที่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรหลีกเลี่ยง และกระเจี๊ยบเขียว ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือเป็นพืชที่มีออกซาเลตสูงหากกินมากเกินไปก็เสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไตได้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการกินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลควรปรึกษาแพทย์ก่อน

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงและต้านโรคได้หลายอย่าง นอกจากนี้ยังเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงมากและให้แคลอรี่ต่ำ การกินกระเจี๊ยบเขียวจึงดีต่อร่างกายในหลายประการ แต่ก็ควรรู้ไว้ก่อนว่ากระเจี๊ยบเขียว กินดิบได้ไหมเพราะไม่สามารถกินดิบได้เหมือนงาขี้ม่อน จึงควรกินให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย

“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : doctor.or.th, medthai.com, foodiosity.com, thepioneerwoman.com, technologychaoban.com

Featured Image Credit : freepik.com/cfc