เว็บไซต์ Lapoon Organic

Life is good with nature

La'Poon Organic

We have transformed into eagle farming. which is another thing that I love In addition to being consumed It has also been used to add value to new products. Even more exciting in this challenge. and will be the future of the new generation Including the farmer who will come together to work with us. Make it a sustainable and safe career that everyone will be able to live with their loved ones. have a sustainable life To give the best to everyone because we are La’poon Organic family.

We have many types of organic raw materials such as Turmeric, Galangal, Longan Cocoa, Moringa , Rice Berry , Aloe Vera , White Sesami , Black Sesami , Perilla ,Sun Flower. All can be used for cooking. or to be used as raw materials.

สาระเพื่อตัวเรา

รวบรวมสาระ บทความที่สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของเราได้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าเดิม ปรับวันละเล็กละน้อย ก็ยีงดีมาปรับไปด้วยกัน

เที่ยวชมสวนของเรา

สวนของเรา เน้นปลูกวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค รวมกับคนในชุมชน เน้นใช้สินค้าหรือสมนไพรของไทยและมีการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูนั้น

ผลิตภัณฑ์ด้วยใจ

ผลิตภัณฑ์สินค้าของเรา เน้นการใช้ส่วนผสมที่มีความเป็นธรรมชาติ ปลอดสารเคมีให้ได้มากที่สุด อ่อนโยนต่อทุกคน

5 ไอเดีย เมนูกระเจี๊ยบ เขียว ทำง่าย กินอร่อย ได้ประโยชน์เต็มๆ

เมนูกระเจี๊ยบ, เมนูกระเจี๊ยบเขียว
Image Credit : Vecteezy

รสชาติของกระเจี๊ยบเขียวนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์โดยจะมีความกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งสัมผัสด้านในจะเป็นเมือกเหนียวที่มากไปด้วยสรรพคุณมากมายที่ดีต่อร่างกายและช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ด้วย กระเจี๊ยบเขียวจึงจัดว่าเป็นพืชเพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่งที่ควรกิน นอกจากนี้ยังมีความอร่อยกินง่ายจึงสามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนูเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบกินกระเจี๊ยบเขียวแต่ยังนึกไม่ออกว่าสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง Lapoon Organic ก็มี เมนูกระเจี๊ยบ ที่น่าสนใจมาแนะนำกันค่ะ

5 ไอเดีย เมนูกระเจี๊ยบ เขียวแสนอร่อย ผักเพื่อสุขภาพกินไม่ยาก ทำตามได้ง่าย

ใครที่ไม่ชอบกินผักและรู้สึกว่าการกินผักเป็นอะไรที่ยากแนะนำให้เริ่มจากกระเจี๊ยบเขียวเลยค่ะ เพราะกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่ไม่มีรสขมและมีเนื้อสัมผัสที่กินได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นหัดกินผัก นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังเป็นผักที่มีวิตามินและคุณค่าทางโภชนาการสูงมากซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารนานาชนิด เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน วิตามินซี วิตามินเค โดยเฉพาะในส่วนของเมือกใสด้านในซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและเคลือบประเพาะได้ดีมาก รวมทั้งมีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรแก้ไอเรื้อรังได้ด้วย จึงทำให้กระเจี๊ยบเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพมากนั่นเอง ในเมื่อกระเจี๊ยบมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ก็มาดูกันเลยค่ะว่าเมนูกระเจี๊ยบเขียวมีอะไรกันบ้าง ?

1. กระเจี๊ยบเขียวราดน้ำมันหอย

เมนูกระเจี๊ยบเขียวเมนูแรกจะเป็นเมนูราดน้ำมันหอยตามแบบภัตราคารจีน เพราะเมนูกระเจี๊ยบก็เป็นผักยอดนิยมของจีนเช่นกัน ซึ่งความกรอบของกระเจี๊ยบก็ช่วยทำให้เมนูนี้พิเศษขึ้นมาโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากเลยค่ะ วิธีทำให้นำกระเจี๊ยบไปแช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้สักพักเพื่อให้เมือกใสๆออกมา จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด นำกระเจี๊ยบเขียวลงไปลวกให้พอสุกและตักขึ้นมาแช่ด้วยน้ำเย็นจัดทันที เสร็จแล้วก็ทำน้ำราดโดยผัดกระเทียมจนมีกลิ่นหอมแล้วใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตายทราย ตามด้วยเห็ดหอมลงไป ใส่น้ำแป้งมันละลายน้ำลงไปปิดท้ายและเคี่ยวต่อจนน้ำข้นก็นำกระเจี๊ยบวางใส่จานแล้วราดซอสลงไปได้เลย

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

สิ่งที่ต้องเตรียม : กระเจี๊ยบเขียว150 กรัม, เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 3 ดอก, กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ, ซอสน้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา, น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา, แป้งมันละลายในน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมเจียวโรยหน้า 1 ช้อนโต๊ะ

เมนูกระเจี๊ยบ, เมนูกระเจี๊ยบเขียว
Image Credit : Vecteezy

2. ยำกระเจี๊ยบ

สำหรับใครเป็นสายเฮลตี้อยากกินเมนูกระเจี๊ยบเขียวเพื่อสุขภาพต้องแนะนำสูตรเมนูนี้เลยค่ะ เพราะกระเจี๊ยบเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้วเมื่อนำมายำรวมกับผักชนิดอื่น ๆ ก็ยิ่งได้รับสารอาหารที่หลากหลายขึ้นไปอีกและเป็นเมนูที่มีแคลอรี่ต่ำ วิธีทำเมนูกระเจี๊ยบยำให้ล้างฝักกระเจี๊ยบให้สะอาด แล้วนำมาลวกให้สุกก่อนที่จะนำไปหั่นแฉลบหรือฉีกเป็นเส้นตรงยาว จากนั้นก็ลวกวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ต้องการใส่ในยำเช่นกุ้งและเนื้อหมู สำหรับน้ำยำให้ตำพริกขี้หนูกับกระเทียมเข้าด้วยกันพอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว คนจนน้ำตาลละลาย และขั้นตอนสุดท้ายก็นำวัตถุดิบเนื้อสัตว์และกระเจี๊ยบมายำรวมกันได้เลยปิดท้ายด้วยใบสะระแหน่เพิ่มความหอม

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

สิ่งที่ต้องเตรียม : กระเจี๊ยบเขียว  200 กรัม, กุ้ง 200 กรัม, เนื้อหมู 50 กรัม, พริกขี้หนู 50 กรัม, กระเทียม ½  ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา ½  ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ, ใบสะระแหน่ 1 หยิบมือ, พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด

ชื้อสินค้าออแกนิก ราคาพิเศษ กับ Lapoon Organic คลิก !

3. กระเจี๊ยบเขียวผัดไข่

เมนูกระเจี๊ยบเขียวผัดไข่เป็นเมนูกระเจี๊ยบอีกอย่างหนึ่งที่ทำได้ง่ายมาก ๆ สามารถทำให้คนในบ้านกินได้ทุกวันและยังมีโปรตีนจากไข่มาเพิ่มคุณประโยชน์ให้กับผักกระเจี๊ยบด้วย วิธีทำก็เหมือนกับเมนูผัดไข่โดยทั่วไปเลยค่ะตั้งกระทะรอน้ำมันเดือดแล้วใส่กระเทียมลงไปผัดให้มีกลิ่นหอมก่อน จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ลงไปขยี้ให้ไข่แห้งแล้วใส่กระเจี๊ยบเขียวที่หั่นแล้วลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสเล็กน้อยด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ก็เป็นอันเสร็จ

สิ่งที่ต้องเตรียม : กระเจี๊ยบเขียว ½ ถ้วย, ไข่ 2 ฟอง, กระเทียมฝานบาง 5 กลีบ, ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

เมนูกระเจี๊ยบ, เมนูกระเจี๊ยบเขียว
Image Credit : Vecteezy

4.  กระเจี๊ยบเขียวคั่วพริกหมาล่า

เมนูกระเจี๊ยบคั่วพริกหม่าล่าจะเป็นเมนูแบบจีนเสฉวนที่เพิ่มความเผ็ดขึ้นมาหน่อย สำหรับใครที่ชอบกินหม่าหล่าก็แนะนำเป็นเมนูนี้เลยค่ะ ซึ่งเมือกของกระเจี๊ยบจะช่วยเคลือบกระเพาะได้ดีจึงไม่ต้องกังวลว่าจะแสบท้องเลย วิธีทำให้หั่นกระเจี๊ยบเตรียมไว้ก่อน จากนั้นก็ตั้งกระทะผัดกระเทียมจนหอมแล้วใส่กระเจี๊ยบตามลงไปได้เลย ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาวกับพริกหมาล่าแค่นี้ก็สามารถนำเสิร์ฟได้แล้วค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม : กระเจี๊ยบเขียว 150 กรัม, กระเทียม 3 กลีบใหญ่, ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ, พริกผงหมาล่า 1.5 ช้อนชา

เมนูกระเจี๊ยบ, เมนูกระเจี๊ยบเขียว
Image Credit : Vecteezy

5. กระเจี๊ยบคั่วเกลือ

ถ้าคิดไม่ออกว่าจะนำกระเจี๊ยบไปทำเป็นเมนูอะไรดีจะทำเมนูเบสิคอย่างกระเจี๊ยบคั่วกลัวก็ได้ค่ะ เป็นเมนูที่ง่ายแต่สามารถกินคู่กับข้าวสวยได้อร่อยเลยค่ะ แถมยังเบาสบายไม่หนักท้องอีกด้วย วิธีทำเริ่มจากนำกระเจี๊ยบที่หั่นแล้วลงไปผัดจนเริ่มนิ่มแล้วก็ใส่กระเทียม เกลือ และพริกไทยลงไปผัดด้วยไฟแรงเพื่อให้ผิวด้านนอกของกระเจี๊ยบมีความกรอบแต่ข้างในยังนิ่มอยู่เสร็จแล้วก็สามารถนำมาราดกับข้าวสวยกินได้เลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม : กระเจี๊ยบเขียว 150 กรัม, กระเทียม 2-3 กลีบ, เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยเล็กน้อย

บางคนอาจจะมีความสับสนระหว่างกระเจี๊ยบเขียวกับกระเจี๊ยบสีแดงอยู่ ซึ่งพืชทั้งสองชนิดนี้เป็นคนละชนิดกันค่ะและมีสรรพคุณที่ต่างกันด้วย (สามารถอ่าน กระเจี๊ยบ โทษ สรรพคุณ เป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ) โดยกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักสวนครัว ส่วนกระเจี๊ยบแดงจะนิยมไปทำน้ำสมุนไพรมากกว่า สำหรับวิธีการเลือกกระเจี๊ยบเขียวให้กำลังดีกินอร่อย ควรเลือกฝักที่ไม่แก่จนเกินไปเพราะมีเนื้อเหนียวและเสี้ยนเยอะ สังเกตได้จากขนาดฝักที่ความยาวประมาณ 2-4 นิ้ว หวังว่าเมนูกระเจี๊ยบทั้ง 5 อย่างนี้จะเป็นประโยชน์ให้สามารถนำไปทำตามกันได้นะคะ รับรองว่าทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

“เป็นคนใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้า Organic 100% ต้องแวะมาช้อปกับ Lapoon Organic แบรนด์สินค้าคุณภาพที่ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน”


อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : webmd.com, medthai.com

Featured Image Credit : vecteezy.com/sirawut56856306